จบลงด้วยดี! บริษัทลิสซิ่งไม่ติดใจเลิกยึดวัดวังใหญ่หลังตรวจพบนางอำไพยกที่ดินให้จริง

กระบวนการยุติธรรม: คดียึดที่ดินวัดวังใหญ่ อ.นาทวี จ.สงขลา จบลงด้วยดี โจทก์ไม่ติดใจหลังพบว่า ที่ดินที่ศาลแพ่งสั่งขายทอดตลาดเป็นวัดจริง วัดไม่ต้องจ่ายเงินแม้แต่บาทเดียว เจ้าคณะจังหวัดสงขลาสั่งตรวจสอบวัด สำนักสงฆ์ ที่พักสงฆ์ ที่มีผู้บริจาคที่ดินให้ เพื่อให้มีการจดทะเบียนให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ให้ถูกต้อง หวั่นซ้ำรอยวัดวังใหญ่

8 พ.ย. – ทนายความ เจ้าอาวาส และไวยาวัจกร วัดวังใหญ่ ได้ประชุมร่วมกันเพื่อหาทางออกกรณีที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้สั่งให้ยึดทรัพย์ของนางอำไพ อัมพุกานน ขายทอดตลาด ตามที่โจทก์คือบริษัท ธนบุรีลิสซิ่งพาณิชย์ จำกัด ได้ยื่นร้องต่อศาล เนื่องจากนางอำไพได้เช่าซื้อรถเบนซ์จากโจทก์เมื่อปี 2541 และไม่ได้จ่ายค่างวด และจากการสืบทรัพย์พบว่านางอำไพครอบครองที่ดินหมายเลข น.ส3 ก.ที่ 4156,4644 เนื้อที่ 27 ไร่ ศาลจึงได้ดำเนินการสั่งขายทอดตลาดเพื่อใช้หนี้ดังกล่าว ซึ่งปรากฏในภายหลังว่า ที่ดินทั้ง 2 แปลง เป็นที่ตั้งของวัดวังใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ที่ กม.40 ถนนเพชรเกษม ต.นาทวี อ.นาทวี จ.สงขลา และนายณัฎนนท์ ศรีก่อเกื้อ สส.เขต 7 สงขลา พรรคภูมิใจไทย ได้นำเรื่องที่เกิดขึ้นร้องต่อกรรมาธิการศาสนาฯ เพื่อให้ดำเนินการช่วยเหลือ เนื่องจากไม่เคยปรากฏเรื่องศาลสั่งยึดวัดเพื่อขายทอดตลาด

ภายหลังการประชุม นายเสรี ชูเพ็ง ผอ.สำนักงานบังคับคดีจังหวัดสงขลา สาขานาทวี ศาล จ.นาทวี เปิดเผยว่า ฝ่ายโจทก์ไม่ได้มาแต่ได้มอบให้สำนักงานบังคับคดี อ.นาทวี เป็นผู้แทนในการตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าวว่า เป็นที่ตั้งวัดจริงหรือไม่ ซึ่งสำนักงานบังคับคดีได้ตรวจสอบสถานที่ เอกสารสิทธิ์ หนังสือยกที่ดินให้วัดจากนายไสว ณ พัทลุง และนางอำไพ อำพุกานน เอกสารถูกต้องทุกอย่าง เพียง แต่ยังไม่มีการโอนที่ดังแปลงดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น ซึ่งการที่เจ้าของมีลายลักษณ์อักษรยืนยันในการมอบที่ให้วัดถือว่า วัดได้รับสิทธิ์ในที่ดินแปลงดังกล่าวถูกต้อง และที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นของวัดตามกฎหมายตั้งแต่มีผู้ยกให้แล้ว

“หลังจากนี้ จะได้ทำเป็นเอกสารส่งให้บริษัท ธนบุรีลิสซิ่งพาณิชย์ จำกัด เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการยกเลิกคดีการยึดที่ดินเพื่อขายทอดตลาดตามกฎหมายต่อไป ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากกระบวนการในการดำเนินการยึดทรัพย์และขายทอดตลาด ศาลจะพิจารณาเพื่อบรรเทาให้ โดยที่ทางวัดไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น” นายเสรีกล่าว

ด้านพระครูสุวัฒนาภรณ์ นพรัตน์ รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา เจ้าอาวาสวัดนาทวี เปิดเผยว่า เจ้าคณะจังหวัดสงขลาห่วงใยกับกรณีที่เกิดขึ้น เพราะเชื่อว่ายังมีวัด สำนักสงฆ์ และที่พักสงฆ์ ที่มีลักษณะเดียวกันกับวัดวังใหญ่อีกมาก ที่การดำเนินการเรื่องที่ดินที่ตั้งวัดไม่เรียบร้อย จึงให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษา และให้ตรวจสอบวัด สำนักสงฆ์ และ ที่พักสงฆ์ ที่มีผู้บริจาคที่ดินให้ เพื่อให้มีการจดทะเบียนให้เป็นที่ธรณีสงฆ์ให้ถูกต้อง

ด้านนายณรงค์พร ณ พัทลุง อดีตปลัดจังหวัดสงขลา บุตรชายนายไสว ณ พัทลุง เปิดเผยว่า เรื่องที่เป็นข่าวอาจจะสร้างความเสียหายให้แก่พ่อ ซึ่งเป็นอดีตสรรพสามิต จ.พัทลุง จึงขอแจ้งให้ทราบว่า เรื่องที่เกิดขึ้นคุณพ่อไม่ได้เกี่ยวข้อง ในส่วนของคุณพ่อได้ทำถูกต้องทุกอย่าง ส่วนเรื่องการซื้อรถเบนซ์ และการถูกฟ้องร้องเกิดขึ้นที่หลัง และในขั้นตอนการที่วัดถูกฟ้องร้อง ก็ได้ให้ทนายยื่นคัดค้านแล้ว จึงอยากจะให้สังคมได้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด

ไม่มีความคิดเห็น:

ชายแดนใต้

[๐ ชายแดนใต้][bleft]

งานวิจัย

[๐ งานวิจัย][twocolumns]

คุณภาพชีวิต

[๐ คุณภาพชีวิต][bsummary]

กระบวนการยุติธรรม

[๐ กระบวนการยุติธรรม][bleft]

บทความ

[๐ บทความ][bsummary]

ศิลปวัฒนธรรม

[๐ ศิลปวัฒนธรรม][twocolumns]