ชลประทานระดมเครื่องจักร-บิ๊กแบ็กซ่อมพนังกั้นน้ำ "สุไหงโก-ลก"

 


ภายในประเทศ: ชลประทานระดมเครื่องจักรกลเข้าซ่อมพนังกั้นแม่น้ำสุไหงโก-ลกพังจากมวลน้ำป่า ขนบิ๊กแบ็กกว่า 300 ถุง แต่ยังระบุไม่ได้ว่าจะใช้เวลากี่วัน เนื่องจากระดับน้ำที่ยังสูงกว่า 2 เมตร ส่วนระดับน้ำท่วมในภาพรวมของ จ.นราธิวาสเริ่มลดลง หลังฝนหยุดตกมาเป็นวันที่ 3

22 ธ.ค. -  จากกรณีที่มวลน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลกพัดพนังกั้นน้ำริมตลิ่งพังเสียหายประมาณ 25 เมตรในพื้นที่ระหว่างกุโบร์บูโบะกูแวกับบ้านของนายบาฮารูเด็น อูมา ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลกนั้น นายเฉลิมชัย ตรีนรินทร์ ผอ.สำนักงานชลประทานที่ 17 ได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมเครื่องจักรกล ปรับพื้นที่โดยรอบพนังกั้นน้ำที่เสียหาย ซึ่งเป็นป่าค่อนข้างรกทึบ เพื่อให้รถยนต์บรรทุกลำเลียงบิ๊กแบ็กจำนวน 300 ถุงเข้าไปทำเป็นฐานให้รถแบกโฮเข้าไปถึงจุดที่พนังกั้นน้ำพัง แล้วจะนำบิ๊กแบ็กมาเรียงซ้อนกันเป็นพนังกั้นน้ำชั่วคราว เพื่อไม่ให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนในพื้นที่ตลาดมูโนะ ซึ่งการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ยังระบุไม่ได้ว่า จะแล้วเสร็จภายในกี่วัน เนื่องจากจุดพนังกั้นน้ำที่พังเสียหายยังมีระดับน้ำสูงประมาณ 2 เมตร ซึ่งเป็นอุปสรรคของรถแบกโฮ ที่เข้าไปไม่สะดวก

จากการตรวจสอบพบว่า น้ำที่ล้นเข้ามาทางพนังกั้นน้ำที่เสียหายได้พัดห้องครัวของนายบาฮารูเด็น ที่อยู่หลังบ้าน เสียหายทั้งแถบ ส่วนกุโบร์บูโบะกูแว มวลน้ำป่าพัดใส่กำแพงด้านซ้ายของประตูทางเข้าเสียหายไปทั้งแถบ ระยะทางประมาณ 70 เมตร ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณดังกล่าวได้ช่วยกันทุบอิฐบล็อบตรงฐานของกำแพงออก เพื่อให้กระแสน้ำไหลได้สะดวกเพื่อรักษากำแพงรั้วของกุโบร์ไว้

ด้านความคืบหน้าสถานการณ์น้ำท่วมในภาพรวมของ จ.นราธิวาสนั้น ฝนได้หยุดตกลงแล้วเป็นวันที่ 3 ส่งผลทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำสุไหงโก-ลก ที่รองรับมวลน้ำป่าเพื่อไหลระบายลงสู่ทะเลด้าน อ.ตากใบ มีปริมาณน้ำลดลง โดยสูงกว่าตลิ่งประมาณ 90 เซนติเมตร ส่งผลให้น้ำที่ท่วมขังบ้านเรือนและพื้นที่ทางการเกษตรเริ่มลดลง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งมีน้ำท่วมขังตั้งแต่วันที่ 18 ธ.ค. รวม 4 หมู่บ้าน ประกอบด้วยบ้านมูโนะ ม.1 บ้านปรือมง ม.3 ต.มูโนะ บ้านตือระ ม.2 บ้านกวาลอซีรา ม.3 บ้านน้ำตก ม.5 ต.ปาเสมัส 2 กับอีก 2 ชุมชนเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก คือ ชุมชนบือเร็งในและชุมชนท่าประปา ซึ่งมีระดับน้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยภาพรวมลดลงวันละ ประมาณ 30 เซนติเมตร

ส่วนในพื้นที่ อ.แว้ง อ.รือเสาะ และ อ.สุไหงปาดี ซึ่งได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาสะสม จนท่วมบ้านเรือนของประชาชน ที่ปลูกสร้างอยู่ในพื้นที่ราบลุ่มนั้น ขณะนี้ปริมาณน้ำท่วมขังได้ลดลงอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าหากในช่วง 2-3 วัน ฝนไม่ตกลงมาเพิ่ม สภาวะน้ำท่วมจะกลับคืนสู่สภาวะปกติ

ไม่มีความคิดเห็น:

กระบวนการยุติธรรม

[๐ กระบวนการยุติธรรม][bleft]

อุบัติเหตุ

[๐ อุบัติเหตุ][twocolumns]

คุณภาพชีวิต

[๐ คุณภาพชีวิต][bsummary]

ชายแดนใต้

[๐ ชายแดนใต้][bleft]

บทความ

[๐ บทความ][bsummary]