"ก้าวไกล" เตรียมเสนอ กมธ.การกฎหมายพิจารณาคดี "อับดุลเลาะ" อีกครั้งหลังดีเอสไอยุติสืบสวน
ชายแดนภาคใต้: DSI แจ้งภรรยา "อับดุลเลาะ อีซอมูซอ" ยุติการสืบสวนคดีการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ ให้โอกาสยื่นเรื่องให้คณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาใหม่ได้หากมีหลักฐานที่ยังไม่เคยเสนอในคำร้องครั้งก่อน ด้านพรรคก้าวไกลเตรียมเสนอ กมธ.การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน พิจารณาอีกครั้ง พร้อมเรียกอธิบดี DSI ชี้แจง
17 ม.ค. 2565 - จากกรณีการเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จากอาการหมดสติหลังถูกควบคุมตัวที่ศูนย์ซักถาม ค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จนทำให้ญาติร้องขอความเป็นธรรมจากหลายหน่วยงานนั้น ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือดีเอสไอได้มีหนังสือแจ้งมาถึงนางซูไมยะห์ มิงกะ ภรรยาของนายอับดุลเลาะ ลงวันที่ 11 มกราคม 2565 ลงนามโดยนายทวีวัฒน์ สุรสิทธิ์ ผอ.กองคดีความมั่นคง ปฏิบัติราชการแทนอธิบดีกรมสวนสวนคดีพิเศษ ว่า อธิบดีกรมสวนสวนคดีพิเศษได้สั่งการให้ยุติการสืบสวนและให้ส่งสำนวนการสืบสวนไปยัง สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อพิจารณาตามอำนาจหน้าที่
"ในการนี้ กองคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้รายงานผลการดำเนินการข้างต้นต่อคณะกรรมการคดีพิเศษรับทราบในการประชุมเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2564 ทั้งนี้ ขอแจ้งให้ท่านทราบว่า ท่านมีสิทธิยื่นเรื่องต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อให้คณะกรรมการคดีพิเศษพิจารณาใหม่ได้ต่อเมื่อมีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานใหม่อันสำคัญที่ยังมิได้ถูกนำเสนอในคำร้องครั้งก่อน"
พรรคก้าวไกลโพสต์ว่า เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ ดำเนินการไปโดยที่ DSI ไม่เคยมีการแถลงผลเลยว่าดำเนินการสืบสวนอย่างไร อาศัยเบาะแสและพยานหลักฐานอะไรบ้าง และสรุปแล้วความตายของ อับดุลเลาะ นั้นเกิดจากอะไร และใครบ้างคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบต่อโศกนาฏกรรมครั้งนี้
“DSI ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นหน่วยงานกลางที่ตั้งขึ้นมาเพื่อสืบสวนสอบสวนคดีที่กระทบอย่างรุนแรงต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ที่มีผู้ทรงอิทธิพลเข้ามาเกี่ยวข้องพัวพัน สุดท้ายแล้วเมื่อย่างเท้าเข้าสู่เขตอิทธิพลของทหารอย่างจังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็สิ้นกระบวนท่า ไม่อาจเป็นที่พึ่งในการแสวงหาความยุติธรรมได้ อย่างนั้นหรือ?” Rangsiman Rome - รังสิมันต์ โรม ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และโฆษกคณะกรรมาธิการ(กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน กล่าว
“ผมเห็นข่าวคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่นำโดยอดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ และบรรดาผู้นำทหารจากกองทัพภาคที่ 4 จัดแถลงข่าวผลการประชุมร่วมกับกลุ่ม BRN ฟังดูเหมือนจะมีความหวังไปในทางที่ดี แต่เมื่อหันกลับมามองคดีการบาดเจ็บเสียชีวิตของประชาชนในพื้นที่ที่ทหารมีส่วนเกี่ยวข้องอย่างคดีคุณอับดุลเลาะ ที่ดำเนินไปอย่างมีเงื่อนงำเช่นนี้แล้ว แล้วจะให้เราเชื่อมั่นได้อย่างไรว่าสันติสุขจะเกิดขึ้นได้จริง ในเมื่อปัญหาความยุติธรรมยังไม่ได้รับการสะสางอย่างตรงไปตรงมา”
พรรคก้าวไกลระบุด้วยว่า กรณีของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ เคยอยู่ในวาระการพิจารณาของคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ของสภาผู้แทนราษฎรมาก่อน ซึ่งหากมีการประชุมขึ้น นายรังสิมันต์จะเสนอให้คณะกรรมาธิการฯ พิจารณาอีกครั้ง
“ผมจะเชิญตัวแทนจาก DSI เข้าไปชี้แจงด้วย เพื่อให้หลักประกันความเชื่อมั่นแก่ประชาชนได้ว่าหน่วยงานนี้จะเป็นผู้ที่ใช้อำนาจหน้าที่ที่ตนมีอย่างถูกต้องเหมาะสม คอยอำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนในคดีสำคัญ มิใช่เป็นเสือกระดาษที่พร้อมจะปลิดปลิวไปตามกระแสอิทธิพลของผู้ที่มีอำนาจรัฐและกำลังอาวุธ อย่างที่สังคมกำลังตั้งข้อกังขาอยู่ทุกวันนี้” รังสิมันต์กล่าว
พรรคก้าวไกลยังอ้างคำกล่าวของนายรอมฎอน ปันจอร์ นักวิชาการสถาบันเฝ้าระวังสถานการณ์ภาคใต้ ถึงกรณีนี้ว่า คดีนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของญาติผู้เสียชีวิตเท่านั้น แต่เป็นประเด็นสาธารณะที่ทั้งคนในพื้นที่และคนทั่วประเทศให้ความสนใจว่า เจ้าหน้าที่ซ้อมทรมานก่อนที่อับดุลเลาะจะเสียชีวิตหรือไม่ เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่อ่อนไหว โดยเฉพาะในพื้นที่ความขัดแย้ง รัฐจึงมีหน้าที่ทำให้ความจริงให้กระจ่าง แต่กระบวนการการสืบสวนกลับล่าช้ามาก ไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ ที่เปิดเผยออกมาจากการสืบสวนเลย อีกทั้งยังไม่มีการชี้แจงเหตุผลว่าทำไม DSI จึงถอนคดีนี้ออกจากคดีพิเศษ
“กรณีของ อับดุลเลาะ อีซอมูซอ ถือว่าเป็นกรณีแรกหลังการเลือกตั้ง 2562 ที่บรรดา ส.ส.ทุกพรรคการเมือง ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านได้ออกมาแถลงร่วมกัน เพื่อติดตามสถานการณ์และเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งคลี่คลายความสงสัย และความกังวลของญาติผู้เสียชีวิต อีกทั้งยังเป็นคดีที่ประชาชนให้ความสนใจ ดังนั้น รัฐก็ควรทำให้เรื่องนี้กระจ่าง คลายข้อสงสัยว่าตกลง อับดุลเลาะเสียชีวิตโดยใคร ใครต้องรับผิดชอบ และกระบวนยุติธรรมก็ต้องมาคลี่ข้อเท็จจริงตรงนี้ หาคนผิดมาลงโทษให้ได้”
ไม่มีความคิดเห็น: