ยึดบุหรี่หนีภาษีได้ที่สุไหงโก-ลกขณะเตรียมส่งมาเลย์ 40 ลังมูลค่ากว่า 6 แสนบาท
15 กุมภาพันธ์ 2565 - เมื่อเวลา 14.00 น. นายภานุพงศ์ ศรีเกตุ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิต ภาคที่ 9 ได้สั่งการให้นายจีระนันทร์ ใจห้าว สรรพสามิตพื้นที่นราธิวาส ร่วมสนธิกำลังกับ พ.ต.ท.นิติ สุขสันต์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ ศปก.อ.สุไหงโก-ลก ที่ 6 และเจ้าหน้าที่ทหารร้อย.ปชด ที่ 3 เพื่อลาดตระเวนตรวจสอบในการจับกุม กลุ่มขบวนการค้าสินค้าหนีภาษี หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงบุหรี่หนีภาษีจากพื้นที่ริมพรมแดนด้าน อ.สุไหงโก-ลก ไปยังเมืองรันตูปันยัง รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
เจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังกันลาดตระเวนตลอดแนวริมพรมแดน โดยเน้นตรวจสอบที่บริเวณช่องทางข้ามธรรมชาติ เมื่อเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนมาถึงบริเวณป่าละเมาะริมพรมแดนด้านหลังของบริษัทแห่งหนึ่งในพื้นที่หมู่ 5 ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คันจอดปิดไฟอยู่อย่างมีพิรุธ เมื่อชายฉกรรจ์ 4–5 คน ซึ่งนั่งอยู่ภายในรถทั้ง 2 คัน เห็นรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ขับเข้ามา ทั้งหมดได้เปิดประตูลงจากรถ แล้วต่างพากันวิ่งหลบหนีเข้าป่าละเมาะไปอย่างรวดเร็ว
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบรถทั้ง 2 คัน พบว่า ที่บริเวณกระบะหลังของรถยนต์กระบะสีเทาดำ มีผ้าเต็นท์ปิดอำพรางสินค้าลักษณะคล้ายลังกระดาษขนาดใหญ่ จำนวน 35 ลัง เมื่อเจ้าหน้าที่แกะตรวจสอบพบว่า เป็นลังกระดาษที่บรรจุบุหรี่จำนวน 1,750 คอตตอน ส่วนรถยนต์โตโยต้ารุ่นฟอร์จูนเนอร์ เจ้าหน้าที่พบว่าเบาะนั่งส่วนหลังถูกพับนอนราบ และมีลังกระดาษชนิดและแบบเดียวกันวางอยู่จำนวน 5 ลัง เมื่อแกะตรวจสอบพบว่ามีบุหรี่ยี่ห้อและชนิดเดียวกัน จำนวนทั้งสิ้น 250 คอตตอน รวมบุหรี่ทั้งหมดที่ตรวจยึดทั้งหมด 40 ลัง 2,000 คอตตอน 20,000 ซอง 400,000 ม้วน มูลค่าประมาณ 600,000 บาท
เจ้าหน้าที่จึงได้นำบุหรี่และรถยนต์ทั้ง 2 คัน มาตรวจสอบที่สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่นราธิวาส สาขาสุไหงโก-ลก เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เพื่อบันทึกการตรวจยึดก่อนที่ นายจีระนันทร์ ใจห้าว สรรพสามิตพื้นที่นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะได้มีการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
นายจีระนันทร์ ใจห้าว สรรพสามิตพื้นที่นราธิวาส เปิดเผยว่า การจับกุมบุหรี่หนีภาษีในครั้งนี้ ทราบว่าบุหรี่ล็อตนี้ได้เล็ดลอดมาจากประเทศเวียดนาม โดนผ่านทางเรือมาส่งให้เอเย่นต์ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ก่อนที่จะมีการแจกจ่ายให้กลุ่มเอเย่นต์เพื่อนำบุหรี่ล็อตนี้เล็ดลอดเข้าไปจำหน่ายในประเทศมาเลเซีย ซึ่งเจ้าหน้าที่เตรียมขยายผลหาเจ้าของโดยจะใช้หลักฐานจากรถยนต์ทั้ง 2 คัน ที่ตรวจยึดมาได้ เพื่อมาดำเนินคดีในข้อหา มีบุหรี่ไว้จำหน่าย ซึ่งสินค้าไม่ได้เสียภาษี และจะต้องเสียค่าปรับบุหรี่ล็อตนี้เป็นเงิน 19,275,960 บาท
ไม่มีความคิดเห็น: