ระดมทุนรับเลือกตั้ง?! ขนน้ำมันเถื่อนทางทะเลคึกคักตั้งแต่ประจวบฯ ไปจนถึงนราธิวาส
เศรษฐกิจ: ผู้ค้าน้ำมันถาม ”บิ๊กโจ๊ก” ใครเปิดไฟเขียวให้ขบวนการขนน้ำเถื่อนทางทะเลกลับมาขนน้ำมันกันคึกคักตั้งแต่ประจวบฯ จนถึงนราธิวาส หลังต้องลักลอบมากว่า 2 ปี เปิดขายต่ำกว่าคลังน้ำมันลิตรละ 2.50 บาท สงขลาขึ้นที่แหล่งพระราม-หัวเขาแดง คาดใกล้เลือกตั้งต้องเร่งระดมทุน
26 มกราคม 2566 - กลุ่มพ่อค้าน้ำมันที่มีเครือข่ายกับขบวนการค้าน้ำมันเถื่อนทางทะเลได้เริ่มนำน้ำมันเถื่อนบรรทุกรถน้ำมันไปส่งขายให้ปั๊มน้ำมัน โรงงานอุตสาหกรรม บริษัทขนส่ง หรือโลจิสติกส์ ที่ ต้องการใช้น้ำมันในราคาที่ถูกกว่าราคาหน้าปั๊ม ที่เป็นน้ำมันที่ถูกต้อง โดยเจ้าของกิจการขนส่งรายใหญ่ใน จ.สงขลา เปิดเผยว่า ผู้ค้าน้ำมันเถื่อนได้ติดต่อขายน้ำมันเถื่อน โดยเสนอขายในราคาลิตรละ 33 บาทถ้วน โดยมีใบกำกับภาษีให้ด้วย ถ้าบริษัทหรือโรงงานอุตสาหกรรมรายไหนไม่ต้องการใบกำกับภาษี ราคาจะลดราคาลงให้อีกลิตระ 1 บาท ซึ่งมีบริษัทและปั๊มน้ำมันเป็นจำนวนมาก ที่ต้องการน้ำมันเถื่อนที่มีราคาถูก เพื่อลดต้นทุน แม้จะรู้ว่า เป็นน้ำมันที่ผิดกฎหมายก็ตาม
สายข่าวของเจ้าหน้าที่หน่วยหนึ่ง เปิดเผยว่า ได้มีการเปิดไฟเขียวให้กลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนในภาคใต้นำน้ำมันจากเรือแทงเกอร์ขึ้นฝั่งได้ตามปกติ มีการเคลียร์รายการหรือจ่ายส่วยเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่ไม่มีการรับส่วยน้ำมันเถื่อนมาเป็นเวลาร่วม 2 ปี ทำให้ที่ผ่านมา พ่อค้าน้ำมันเถื่อนต้องใช้วิธีการลักลอบแบบไม่ได้ไฟเขียว ซึ่งแหล่งข่าว ระบุว่า มีการจ่ายทุกหน่วย ทั้งในพื้นที่และส่วนกลาง
แหล่งข่าว อ้างว่า ก่อนหน้าที่จะไฟเขียวในพื้นที่ภาคใต้ ชายทะเลด้านตะวันออก หรืออ่าวไทย ได้มีการไฟเขียวให้นำเข้าน้ำมันเถื่อนเดือนละ 5 ล้านลิตร ให้นายทุนในพื้นที่ อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา นำขึ้นฝั่ง ตั้งแต่ต้นเดือนมกราคม 2566 เป็นต้นมา หลังจากนั้นจึงมีการไฟเขียวให้กกลุ่มผู้ค้าในพื้นที่อ่าวไทย ตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์จนถึง จ.นราธิวาส ให้ทำงานได้
แหล่งข่าว แจ้งว่า ในพื้นที่ จ.สงขลามีการขนน้ำมันเถื่อนจากแทงเกอร์กลางทะเลโดยเรือประมงดัดแปลงมาขึ้นฝั่งที่ท่าเรือแหล่งพระราม อ.เมือง สงขลา และท่าเรือหัวเขาแดง ท่าเรือม่วงงาม อ.สิงหนคร จ.สงขลา โดยเรือประมงดัดแปลงนำน้ำมันเถื่อนเข้ามาขึ้นตามท่าเรือต่างๆ ลำละ 15,000-20,000 ลิตร และมีรถบรรทุกน้ำมันมารอรับเพื่อนำส่งให้ลูกค้า
นอกจากนั้น ยังมีการเปิดเพจเสนอขายน้ำมันเถื่อน โดยขายต่ำกว่าราคาที่คลังน้ำมันขายให้จ็อบเบอร์ลิตรละ 3 บาท มีการส่งน้ำมันให้ถึงลูกค้าและอ้างว่าเป็น น้ำมันยูโรไฟว์ รับจากคลังน้ำมัน ปตท. ที่ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งมีผู้ตั้งข้อสงสัยว่า อาจจะเป็นน้ำมันยูโรไฟว์จริง และรับจากคลังน้ำมัน ปตท.จริง แต่เป็นน้ำมันของหน่วยงานของรัฐ ที่หน่วยงานมีการทุจริตนำมาขายให้พ่อค้าน้ำมัน ซึ่งมีการทำกันมาเป็นเวลานานและเป็นช่วงๆ
อย่างไรก็ตาม ใน จ.สงขลายังมีการน้ำมันจากคลัง ปตท. ที่จำหน่ายให้เรือสินค้ามาขายให้โรงงานอุตสาหกรรมในราคาที่ถูกกว่าราคาน้ำมันจากคลัง ลิตรละ 2-3 บาท เพราะเป็นน้ำมันที่บริษัทผู้รับจ้างส่งน้ำมันร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทที่เป็นผู้รับน้ำมันให้เรือสินค้าร่วมมือกันขโมยน้ำมันมาขายให้ลูกค้าที่ต้องการน้ำมันราคาถูก แต่เป็นน้ำมันที่ใช้กับเรือประมง ที่ไม่มีการผสมใบโอดีเซล ซึ่งแหล่งข่าวอ้างว่า มีการนำน้ำมันที่เป็นการรับซื้อของโจรจากท่าเรือในพาณิชย์มาขายให้ผู้ต้องการเดือนละหลายแสนลิตร
ทั้งนี้ ผู้ที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลปราบปรามป้องกันน้ำมันเถื่อน ตามคำสั่งของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. คือ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ดังนั้น ผู้ค้าน้ำมันในภาคใต้จึงมีการตั้งคำถามถึงพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ว่า การที่ผู้ค้าน้ำมันเถื่อนบอกกับกลุ่มผู้เป็นลูกค้าว่า มีการเปิดไฟเขียวให้ขนน้ำมันกลางทะเลขึ้นฝั่ง เพื่อขายให้ผู้ต้องการอย่างเสรี โดยไม่มีการจับกุมเป็นเรื่องจริงหรือไม่
รายงานข่าวยังเปิดเผยว่า กลุ่มที่เป็นนายทุนในทุกพื้นที่ในธุรกิจการค้าน้ำมันเถื่อนทางทะเลในอ่าวไทยเป็นนักการเมือง ทั้งระดับชาติและท้องถิ่น โดยเฉพาะที่เรียกว่า บ้านใหญ่ ซึ่งการเปิดไฟเขียวครั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะพรรคการเมืองและผู้ที่เป็นบ้านใหญ่ ที่สังกัดพรรคการเมืองต่างๆ ต้องการเงินทุนในการเลือกตั้งที่จะมาถึง จึงมีการเจรจากับหน่วยงานในส่วนกลางให้เปิดไฟเขียว เพื่อหาทุนใช้ในการเลือกตั้ง
ไม่มีความคิดเห็น: