“นัจมุดดีน” มั่นใจแลนด์สไลด์นราธิวาสหลังลงพื้นที่พบประชาชนหนุน “ภูมิใจไทย”

การเมือง: “ภูมิใจไทย” นำว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาสทั้ง 5 เขต เปิดใจในสิ่งที่อยากทำเพื่อพัฒนาแต่ละพื้นที่ “นัจมุดดีน อูมา” มั่นใจประชาชนต้องการเปลี่ยนผู้แทนมาเลือกภูมิใจไทยทั้ง 5 เขต จากนโยบาย 8 ข้อหลักที่พูดแล้วทำได้จริง

20 กุมภาพันธ์ 2566 - นายนัจมุดดีน อูมา ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะเป็นผู้ร่วมกันกำกับดูแลว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับนายสิรภพ ดวงสอดศรี หรือ “พี่ใหญ่” ผู้อำนวยการพรรคภูมิใจไทย ได้นำว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 5 เขต ในพื้นที่ จ.นราธิวาส แถลงข่าวหลังจากลงพื้นที่หาเสียงสนับสนุนจากประชาชนในระยะเวลาหนึ่ง และพบว่าประชาชนมั่นใจในพรรคภูมิใจไทย ว่า พรรคเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องประชาชนในสภาได้ ทั้งเรื่องการแก้ไขปัญหาปากท้อง การพัฒนาพื้นที่นำความเจริญสู่ชุมชน การแก้ไขปัญหาแรงงานที่อพยพไปค้าแรงงานต่างถิ่น โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ในทั้ง 5 เขต มีความจริงใจแก้ไขปัญหาให้แก่พี่น้องประชาชน ที่จะพลิกฟื้นพื้นที่ จ.นราธิวาส ให้กลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจด้านการค้า การท่องเที่ยวในอนาคต ที่มีเงินหมุนเวียนสู่ชนชั้นระดับรากหญ้า ด้วยนโยบาย 8 ข้อหลักของพรรคที่พูดแล้วทำได้จริง

“การเลือกตั้งในครั้งที่จะถึงนี้ จะได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเลือก ส.ส.เข้าไปนั่งในสภาตอนแรก 3 ที่นั่ง แต่มาถึงขณะนี้พบว่าพี่น้องประชาชนต้องการเปลี่ยนตัวแทนจากพรรคอื่นๆ เป็นเลือก ส.ส.พรรคภูมิใจไทยเข้าไปนั่งในสภาครบทั้ง 5 เขต โดยชนะพรรคอื่นแบบแลนด์สไลด์ เนื่องจากว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ทั้ง 5 เขต มีความถนัดเฉพาะตัวของแต่ละคนสูง” นายนัจมุดดีนกล่าว

ด้านนายลุตฟี หะยีอีแต นายกเทศบาลตำบลบาเจาะ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 1 กล่าวว่า ตนมุ่งมั่นที่จะมีโครงการขยายถนน 2 เลนเป็น 4 เลน จากสถานที่ท่องเที่ยวหาดนราทัศน์ ไปยังหาดอ่าวมะนาว ระยะทาง 2 กิโลเมตร ช่วงเทศกาลต้องใช้เวลาเดินทางนานกว่า 1 ชั่วโมง พร้อมขยายสะพานให้กว้างรองรับกับถนน 4 เลนที่ใช้ในปัจจุบัน รวมทั้งก่อสร้างสะพานข้ามทางแยกลำภูที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และสร้างความสูญเสียต่อชีวิตของประชาชน หากถนนหนทางสะดวกการขนถ่ายสินค้าการลงทุนก็จะตามมา

นายราชวัตร เด่นตุลาการ ผอ.การศึกษาเอกชน ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 2 กล่าวว่า ตนมุ่งมั่นที่จะพัฒนาด้านการศึกษาในอนาคต ซึ่งปัจจุบัน พรรคผลักดันเงินเข้ามาสนับสนุนในโรงเรียนตาดีกา ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศาสนาขนาดเล็กที่เปิดเรียนในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ให้เด็กเยาวชนได้รับการศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของหลักศาสนา ที่ช่วยปูทางให้เด็กเดินทางที่ถูกต้อง ไม่ถูกชักจูงไปในทางที่ผิด



นาย น.ท.สกรี ศรีริกานนท์ อดีตนายทหารหน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 41 ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 3 กล่าวว่า ประชาชนได้สนับสนุนให้ตนแก้ไขปัญหาที่ดินทำกินที่ติดเขตป่าสงวนและทับซ้อนกับเขตอุทยาน รวมทั้งศึกษาพื้นที่ทำฝายทดน้ำ ที่นำมาใช้ด้านเกษตรกรรมในฤดูแล้ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวตนผลักดันได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งเรื่องดังกล่าวต้องผ่านการพิจารณาสภา หากพรรคภูมิใจไทยเป็นฝ่ายรัฐบาลก็จะผลักดันได้เต็มตัว ส่วนเรื่องฝายจะหารือกับผู้ที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่เกินความสามารถ

นายซาการียา สะอิ อาจารย์คณะวิศวมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 4 กล่าวว่า มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ เปิดมา 19 ปี ร้อยละ 50 คนที่เรียนเป็นผู้มีรายได้น้อย หากทำข้อตกลงกับประเทศซาอุดิอาระเบีย เพื่อส่งนักศึกษาที่เรียนจบแพทย์ไปทำงานได้ ก็จะทำให้ครอบครัวมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันนักศึกษาแพทย์ที่จบในแต่ละปีก็ถูกจองตัวทำงานตามโรงพยาบาลเอกชนต่างๆ ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยเหลือค่าจ่ายจ่ายในระหว่างการศึกษา เมื่อจบออกมาจะได้มีรายได้ส่งให้ครอบครัวไปในตัว

นายสุกรี มะเต๊ะ ผู้ช่วยเลขานุการ รมช.มหาดไทย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส เขต 5 กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานในเขตเลือกตั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ทุรกันดารไม่ค่อยมีการพัฒนา พรรคเคยผลักดันถนนเพียง 800 เมตรในพื้นที่ อ.ศรีสาคร ทำให้ราคาที่ดินพุ่งสูง 8 แสนถึง 1 ล้านบาทต่อห้อง ซึ่งเป็นตัวอย่างที่สร้างความเจริญให้แก่พื้นที่ หากมีการพัฒนาต่อเนื่องทุกอย่างก็จะเข้ามาทั้งการลงทุน การค้าและการท่องเที่ยว เนื่องในในพื้นที่มีความพร้อม ที่จะสร้างงานให้ชาวบ้าน แล้วรายได้ก็จะตามมาเหมือนเงาตามตัว

“ผมเชื่อว่าพรรคภูมิใจไทยในการเลือกตั้งครั้งนี้ ต้องเป็นฝ่ายรัฐบาลเพื่อที่จะสานต่อการพัฒนาให้มีความยั่งยืนในพื้นที่ ตามสโลแกนของพรรคทำได้ตามที่พูดไว้ได้จริง” นายสุกรีกล่าว