“นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง ไม่กังวลกระแส 2 ลุง มั่นใจ จ.สงขลา “ประชาธิปัตย์” ยกจังหวัด







รายงานพิเศษ โดย.. เมือง ไม้ขม

ในการหาเสียงเลือกตั้ง ที่เดินเข้าสู่โค้งสุดท้ายหรือ "7 วันอันตราย" การหาเสียงของผู้สมัคร และพรรคการเมือง ที่เป็นพรรคใหญ่ และหวังที่จะมีที่นั่งใน จ.สงขลา มีการหาเสียงกันอย่างดุเดือด มีการใช้เงินในการซื้อเสียงอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน โดยการเลือกตั้งครั้งนี้มีการใช้บัตร 2 ใบ คือ เลือกผู้สมัครเขต 1 ใบ และเลือกพรรค 1 ใบ

ผู้สมัครหลายพรรคที่จ่ายเงินซื้อเสียง เสียงละ 1,000 บาท เพื่อให้เลือกตนเอง โดยไม่สนใจในการเลือกพรรค เพราะหากให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เลือกทั้งเขตทั้งพรรค จะต้องจ่ายเพิ่มอีก 500 บาท หรือ 300 บาท

ในบางเขตเลือกตั้ง เช่น เขต 2 จ.สงขลา มีผู้สมัครบางพรรคจ่ายเงินซื้อเสียงแล้ว โดยขอให้ผู้ใช้สิทธิ์การทั้ง 2 เบอร์ มีการจ่าย 1,500 บาท ในขณะที่ผู้สมัครหลายพรรคให้หัวคะแนนถ่ายบัตรประชาชนและเบอร์โทรศัพท์ของผู้มีสิทธิ์ เพื่อเตรียมการจ่ายเงินใน 3 วันสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง

แต่ผู้สมัครส่วนใหญ่ที่ทำการซื้อเสียงต่างมีการจ่ายเงินไปแล้ว เพราะเกรงว่าใน 3 วันสุดท้าย จะเกิดปัญหาเรื่องของการจ่ายเงิน ซึ่งปีนี้จะไม่มี “คืนหมาหอน” เหมือนในอดีต




ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ พรรคประชาธิปัตย์ต้องการทวงคืนที่นั่งทั้ง 9 เขตเลือกตั้ง เพื่อกู้ศักดิ์ศรีกลับคืนมา เพราะในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 ประชาธิปัตย์สอบผ่านเพียง 3 เขตเลือกตั้ง ดังนั้นในการเลือกตั้งในปี 2566 “ประชาธิปัตย์” จึงมีการแบ่งพื้นที่รับผิดชอบระหว่างนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคและผู้อำนวยการเลือกตั้ง ที่ดูแลผู้สมัครใน เขต 1 เขต 2 เขต 3 เป็นหลัก

ส่วนนายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือ “นายกชาย” ดูแล ผู้สมัครในเขต 4 เขต 5 เขต 6 เขต 9 ส่วน เขต 7 และ เขต 8 เป็นการดูแลร่วมกันระหว่างนายนิพนธ์และนายเดชอิศม์ โดย “ประชาธิปัตย์” ตั้งความหวังที่จะได้ ส.ส.ยกจังหวัดสงขลาทั้ง 9 เขต เพราะเป็นพรรคการเมืองเดียว ที่มีการส่งผู้สมัครหาเสียงล่วงหน้าก่อนการยุบสภาเป็นปี โดยเฉพาะเขตเลือกตั้งที่ 1 ที่ “ประชาธิปัตย์” ส่งนายสรรเพชญ บุญญามณี บุตรชายของนายนิพนธ์ บุญญามณี หาเสียงเป็นเวลา 4 ปี

เช่นเดียวกับนายศิริโชค โสภา ผู้สมัคร ส.ส.เขต 7 ที่ หลังจากเสียตำแหน่งให้นายณัฐฎ์ชนน ศรีก่อเกื้อ ผู้สมัครของพรรคภูมิใจไทย ในปี 2562 ก็ทำการหาเสียงกับประชาชนมาโดยตลอด

ในขณะที่พรรคที่เป็นคู่แข่งที่สำคัญของ “ประชาธิปัตย์” ใน จ.สงขลา ได้แก่ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ ที่ ”ลุงป้อมพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค อัดฉีดอย่างเต็มที่ และคาดหวังที่จะได้ ส.ส.ในเขตดังกล่าว “ประชาธิปัตย์” ส่ง ส.ส.น้ำหอม น.ส.สุภากร กำเนิดผล อดีต ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้งซ่อม ซึ่งเคยเอาชนะนายอนุกูลมาแล้วในการเลือกตั้งซ่อมเมื่อ 2 ปีก่อน

ที่ครั้งนี้มีข่าวว่า “อนุกูล” สู้เต็มที่ มีการปรับยุทธศาสตร์ เพื่อเอาชนะ ”ส.ส.น้ำหอม” ให้ได้ โดยจะเอาชนะใน เขต อ.สะเดา ซึ่งเป็นพื้นที่ใหญ่กว่า อ.คลองหอยโข่ง ที่เป็นพื้นที่ ซึ่ง น.ส.สุภาพร กำเนิดผล เคยเอาชนะอย่างถล่มทลาย มาแล้วในการเลือกตั้งซ่อม



แต่ในขณะเดียวกันนายเดชอิศม์ ขาวทอง ผู้รับผิดชอบพื้นที่เขต 6 ก็ แก้เกมโดยเริ่มทำคะแนน ตีตื้นในพื้นที่ของ อ.สะเดาแบบไล่มาติดติด และยุทธศาสตร์ที่ดีกว่า มีเป้าหมายที่แม่นยำกว่า และมีทีมงาน ที่แข็งแกร่ง และไม่หลอกลวง สุดท้ายอาจจะทำให้อดีต ส.ส.น้ำหอมได้รับชัยชนะอีกครั้ง

ส่วนในเขตเลือกตั้งที่ 5 ซึ่งนายเดชอิศม์ ขาวทอง เป็นผู้ลงสมัครเองนั้น แม้ว่าครั้งนี้นายเดชอิศม์ จะต้องสู้กับนายปรีชา สุขเกษม ผู้สมัครของพรรครวมไทยสร้างชาติ และผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ แต่ด้วยการ ”จัดตั้ง” ที่แข็งแกร่ง ยังจะทำให้นายเดชอิศม์ได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง

แต่คะแนนจะลดน้อยลง ซึ่งฝ่ายตรงข้ามได้พยายาม “เจาะยาง” โดยการร้อง กกต.สงขลาว่า นายเดชอิศม์ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยทีมงานจัดมโหรสพ ในงานพิธีสรงน้ำรูปเหมือนอาจารย์คง ที่มีสัญญลักษ์ของพรรค และมีการโฆษณาหาเสียงให้ผู้สมัครของพรรค

รวมทั้งเขตเลือกตั้งที่ 9 ที่นายเดชอิศม์ ส่งผู้สมัครที่เป็นบุตรชายลงในเขตนี้คือนายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ซึ่งคู่แข่งคนสำคัญคือนายสมชาย เล่งหลัก จากพรรคภูมิใจไทย ซึ่งนายสมชาย ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 เคยแข่งขันกับนายเดชอิศม์ในเขตเลือกตั้งที่ 5 มาแล้ว โดยมาเป็นที่ 2 ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้ ท่อน้ำเลี้ยงจากพรรคภูมิใจไทย ที่เป็นคู่แข่ง ที่มีคะแนนสูสีกับนายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง ที่มีการลุ้น ว่าใครจะเป็นผู้ได้รับการเลือกตั้ง


ส่วนในเขตเลือกตั้งที่ 2 ที่ 3 เป็นการ แข่งขันหรือต่อสู้ระหว่างผู้สมัครของประชาธิปัตย์กับภูมิใจไทยและรวมไทยสร้างชาติ ส่วนเขตเลือกตั้งที่ 4 เป็นการต่อสู้ระหว่างประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ และภูมิใจไทย ซึ่งโอกาสของการแพ้-ชนะ มีด้วยกันทุกพรรค

อย่างไรก็ตาม นายเดชอิศม์ ขาวทอง รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคมีความเชื่อมั่นสูงมากว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ประชาธิปัตย์จะได้ ”แจ้งเกิด” โดยได้ ส.ส.ทั้ง 9 เขต เพราะมีความพร้อมในการหาเสียงมาก่อนพรรคอื่นๆ รวมทั้งมีกระแสตอบรับจากประชาชน โดยเฉพาะ ประชาชน ที่เคยทิ้งประชาธิปัตย์ ไปเลือกผู้สมัครพรรคการเมืองอื่น เมื่อปี 2562 เพราะเห็นแล้วว่าพรรคดังกล่าวไม่ได้พัฒนาจังหวัดสงขลาอย่างที่หาเสียงไว้

ส่วนเรื่องการถูก ผู้สมัครที่เป็น “คู่แข่ง” แจ้งเอาผิดกับ กกต.จังหวัด เป็นเรื่องที่อธิบาย ได้ และไม่ได้ทำผิด จึงไม่ได้เป็นประเด็นที่หนักใจกับการเลือกตั้งครั้งนี้



ไม่มีความคิดเห็น:

ชายแดนใต้

[๐ ชายแดนใต้][bleft]

งานวิจัย

[๐ งานวิจัย][twocolumns]

คุณภาพชีวิต

[๐ คุณภาพชีวิต][bsummary]

กระบวนการยุติธรรม

[๐ กระบวนการยุติธรรม][bleft]

บทความ

[๐ บทความ][bsummary]

ศิลปวัฒนธรรม

[๐ ศิลปวัฒนธรรม][twocolumns]