สงขลาแตกแล้ว! "พิธา" ยกทัพก้าวไกลปราศรัยใหญ่ ประกาศ 'ปฏิญญาหาดใหญ่'






การเมือง: "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" นำทัพก้าวไกลยกทีมเจาะ ‘สงขลา’ เปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คนนับหมื่นล้นลานออกมาอีกฝั่งถนน ประกาศ "สงขลาแตกแล้ว" ขอแรงมาหักเสาไฟฟ้าไปด้วยกัน ประกาศ "ปฏิญญาหาดใหญ่" ภายใต้ยุทธศาสตร์การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต แซะคนอยู่มา 8 ปี สัญญาว่าจะสงบหรือว่าสลบกันแน่ เศรษฐกิจประเทศโตแค่ 15% สงขลาเกิน 0 มานิดเดียว บอกสงขลามีคนเก่งเยอะแต่รัฐรวมศูนย์ไม่เข้าใจ ให้งบน้อยกว่านาฬิกาบางคนมาให้

7 พฤษภาคม 2566 - ที่ลานสี่แยกสะพานดำ ในเมืองหาดใหญ่ พรรคก้าวไกล นำโดยนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค นายรังสิมันต์ โรม และนายพริษฐ์ วัชรสิทธุ ได้ยกทัพมาเปิดเวทีปราศรัยใหญ่เพื่อช่วยผู้สมัครของพรรคก้าวไกลใน จ.สงขลาหาเสียง ซึ่งพรรคก้าวไกลส่งผู้สมัคร 8 เขตเลือกตั้งของสงขลาจากทั้งหมด 9 เขต ยกเว้นเขต7 ที่ไม่มีผู้สมัคร

บรรยากาศการปราศรัยมีประชาชนซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นวัยทำงานมาร่วมฟังการปราศรัยนับหมื่นๆ คนจนล้นลานออกมาด้านนอก บางส่วนต้องยืนบนเกาะกลางถนน โดยเฉพาะช่วงไฮไลต์ที่นายพิธา หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัยได้รับเสียงเชียร์และเสียงกรี๊ดสนั่นหวั่นไหวอัดแน่นกันเต็มหน้าเวที มีทั้งถ่ายเซลฟี่ มอบดอกไม้ มอบตุ๊กตาเป็นกำลังใจ โดย นายพิธา ได้ทักทายชาวสงขลาเป็นภาษาใต้ว่า "แหลงใต้ไม่ค่อยได้ แต่อยากบอกว่าคิดถึงอย่างแรงเลยนิ" และขอเสียงคนรักประชาธิปไตยให้ไปเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค.นี้ และมีกลุ่มที่มาฟังปราศรัยบอกว่า ส้มรักพ่อนะ นายพิธา กล่าวตอบว่า พ่อก็รักส้มนะ และพ่อก็รักฟ้าด้วย



นายพิธา กล่าวว่า ขอประกาศว่า สงขลาแตกแล้ว คนที่เขาบอกว่าเป็นไปไม่ได้ บอกว่าพรรคก้าวไกลไม่สนใจภาคใต้ ไม่สนใจคนหาดใหญ่ ไม่จริง เขาไม่เข้าใจว่าพรรคก้าวไกลผูกพันกับชาวใต้และคนหาดใหญ่แค่ไหน เอาขุนพลภาคใต้มาหาที่สงขลา เลขาธิการพรรคเป็นคนหาดใหญ่ เรียนที่ ร.ร.หาดใหญ่วิทยาลัย ตนทำงานอยู่ในห้องเดียวกันกับเขา เขาเปิดเพลงคำสัญญาที่หาดใหญ่และสงขลายังคอยฟังตลอด เรื่องของคำสัญญา มีเพลง เราจะทำตามสัญญา ขอแค่เวลาอีกไม่นาน พี่น้องจำได้ไหมว่า 8 ปีที่ผ่านมา มีใครมาสัญญาที่หาดใหญ่บ้าง บอกให้เลือกอะไรสงบๆ ตกลงมันสงบหรือสลบกันแน่

อันนี้ไม่ใช่เรื่องตลก 8 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจประเทศไทยโตเฉลี่ยอยู่ที่ 15% เขาเคยสัญญาไว้ว่า เศรษฐกิจจะดี เมื่อมีคนดี ย.ยักษ์ การันต์ เข้ามาบริหาร 8 ปีที่ผ่านมาโตประมาณ 15% ภาคใต้โตประมาณ 5% สงขลาโตเกินกว่า 0 ไปนิดเดียว เขาเคยสัญญากับพี่น้องว่าจะเป็นแกนหลักในการสร้างคมนาคมอย่างดี ใครไปดูด่านสะเดาแห่งใหม่หน่อย สร้างมา 2-3 ปี ยังไม่เปิดใช้มาถึงทุกวันนี้ ใครรับรองว่าทุกอย่างจะดี แต่ทุกอย่างมีแต่ลง มีขึ้นอย่างเดียวนั่นก็คือยาเสพติด แล้วเพียงคำสัญญาแบบนี้ พี่น้องสงขลาจะไม่เลือกเขาอีกใช่ไหม





นายพิธา กล่าวว่า คราวที่แล้วชาวสงขลาให้คะแนนพวกเรา อดีตพรรคอนาคตใหม่ ให้ความไว้วางใจเรามา 9 หมื่นกว่าคะแนน แต่คราวนี้แค่คนรุ่นใหม่อย่างเดียว อายุ 18-25 ปีก็ 9 หมื่นคะแนนแล้ว รวมกันเป็นแสนแปดแล้วมันจะไม่ชนะได้อย่างไร คนที่เขาเป็นรัฐบาลอยู่บอกว่า จะก้าวข้ามความขัดแย้ง จะขอทำแล้ว ทำอยู่ ทำต่อ ทำเพื่ออะไรของมันวะ แล้วมาถึงขนาดนี้แล้วก็ต้องบอกว่า พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทยก็มีสัญญาที่หาดใหญ่ให้พี่น้องเช่นเดียวกัน

ถือว่าเป็นปฏิญญาหาดใหญ่ที่เราส่งไปทุกจังหวัดทั่วประเทศไทย เราขอสัญญาว่าเมื่อเราเป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ การกระจายที่ดิน จะเปลี่ยน ส.ป.ก.ให้เป็นโฉนด และสัญญาว่าการเมืองใหม่แบบเราจะไม่มีรัฐมนตรีหน้าไหนที่คุมเรื่องเกี่ยวกับที่ดิน พอรู้นโยบายว่าจะทำอุตสาหกรรมอะไรก็ให้ญาติตัวเองไปซื้อแล้วเปลี่ยนเป็นโฉนด


นายพิธา กล่าวว่า เราสัญญากับพี่น้องประชาชนว่า อีกหน่อยเศรษฐกิจของสงขลา จากที่ผ่านมา เป็นเรื่องเน้นการใช้ทรัพยากร ทั้งการค้าชายแดน ปาล์ม ยางพารา การท่องเที่ยว จะเปลี่ยนเป็นเศรษฐกิจสมองและสองมือของพี่น้องชาวหาดใหญ่ คนสงขลามีแต่คนเก่ง มีความสร้างสรรค์ เปลี่ยนเศรษฐกิจแบบเก่าเป็นสงขลาอนาคตใหม่ เศรษฐกิจสร้างสรรค์ แต่รัฐราชการรวมศูนย์เขาไม่เข้าใจในความเก่งกาจของพี่น้องชาวสงขลา ปีที่ผ่านมา เขาให้งบเศรษฐกิจสร้างสรรค์คุณมาแค่ 8 ล้านบาทเอง ถูกกว่านาฬิกาใครบ้างคนอีกนะ 

เพลงคำสัญญาที่หาดใหญ่ สัญญากันที่ชานชาลา แต่งเมื่อปี 2537 ปีที่ผ่านมา ผมนั่งรถไฟจากหาดใหญ่ไปปีนัง ชานชาลานั้นก็ยังเป็นชานชาลาเดิมอยู่เลย เมื่อก้าวไกลเป็นรัฐบาล ขอให้คำสัญญา การคมนาคมระหว่างจังหวัด การคมนาคมภายใน จ.สงขลา ต้องไร้รอยต่อ ภายใต้นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แน่นอน



“แค่นี้เอง สิ่งที่เราต้องการมาทำให้แก่พ่อแม่พี่น้อง ถือว่าเป็นปฏิญญาหาดใหญ่ที่เราสัญญากับทุกท่าน ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่ชื่อว่า การเมืองดี ปากท้องดี มีอนาคต และแล้วเราจะหักเสาไฟฟ้าด้วยกัน แล้วเข้าสู่อนาคตใหม่ของพี่น้องชาวหาดใหญ่ ชาวสงขลา ภาคใต้ และประเทศไทยไปด้วยกัน และเมื่อเราจุดไฟกลางสายลมแล้ว คนที่มีอำนาจอยู่ ฝ่ายอนุรักษนิยมเขาย่อมไม่พอใจ เมื่อแข่งขันกับเราไม่ได้ เขาก็ย่อมสาดโคลนมา ใช้วิชามารต่างๆ นานา แต่ผมขอบอกกับพวกเราว่า โคลนสาดโคลนไม่ช่วยอะไร ความมืดไล่ความมืดไม่ได้ ความสว่างเท่านั้นที่จะทำให้สงขลาเปลี่ยนไป เราจะมาเปลี่ยนสงขลา เปลี่ยนภาคใต้ และเปลี่ยนประเทศไทยไปด้วยกัน”

หนึ่งในผู้ที่มาฟังการปราศรัยคือ น.ส.ภาณิชา ศรีสุวรรณ อายุ 16 ปี นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชูทิศหอวัง นนทบุรี ซึ่งเดินทางมาจาก จ.นนทบุรี เพื่อมาฟังการปราศรัยของพรรคก้าวไกลที่ จ.สงขลา และต้องตะลึงกับจำนวนผู้คนที่มาฟังการปราศรัยจำนวนมาก ต่างจากการเลือกตั้งรอบที่แล้วซึ่งคนใต้ยังไม่เปิดใจให้พรรคก้าวไกล




ไม่มีความคิดเห็น:

ชายแดนใต้

[๐ ชายแดนใต้][bleft]

งานวิจัย

[๐ งานวิจัย][twocolumns]

คุณภาพชีวิต

[๐ คุณภาพชีวิต][bsummary]

กระบวนการยุติธรรม

[๐ กระบวนการยุติธรรม][bleft]

บทความ

[๐ บทความ][bsummary]

ศิลปวัฒนธรรม

[๐ ศิลปวัฒนธรรม][twocolumns]