อดีตผู้ว่าฯ หนุนรื้อโพงพางทะเลสาบสงขลา เคยชดเชย 11 ล้านพร้อมที่ทำกินแต่ก็กลับมาปักเหมือนเดิม





๐ ภายในประเทศภายในประเทศ ๐ อดีตผู้ว่าฯ สงขลาเห็นด้วยรื้อโพงพางทะเลสาบสงขลา เหตุผิดกฎหมาย-ขวางร่องน้ำเดินเรือ แฉเคยจ่ายค่าชดเชยให้แล้ว 11 ล้านบาทพร้อมที่ดินทำกิน แต่ก็กลับมาปักใหม่และขายที่ดิน ด้าน “นายกชาย” ขอโทษกลุ่มประมง พยายามหาเงินเยียวยาแล้ว แต่ไม่สำเร็จ

18 พฤษภาคม 2567 -  จากกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาประกาศให้รื้อถอนโพงพางในทะเลสาบสงขลาในวันที่ 19 พฤษภาคมนั้น นายธำรงค์ เจริญกุล อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาระหว่างปี 2558-2559 เปิดเผยว่า ในครั้งที่ตนเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้จ่ายเงินให้รื้อถอนโพงพาง ที่รุกร่องน้ำการเดินเรือไปแล้วในระยะทาง 5 กิโลเมตร ที่กีดขวางร่องน้ำการเดินเรือจำนวน 11 ล้านบาท

เงิน 11 ล้านบาทนี้เป็นเงินที่นายธำรงค์อ้างว่า ได้รับการสนับสนุนจากผู้ประกอบการทางทะเลที่ได้รับความเดือดร้อนจากโพงพาง ที่รุกล้ำร่องน้ำเดินเรือ และต้องเสียเงินให้เจ้าของโพงพาง ที่เรียกร้องเงินค่าเสียหายจากการที่เรือเฉี่ยวชนกับโพงพาง ที่รุกร่องน้ำการเดินเรือ และมีการจัดที่ดินทำกินให้ครอบครัวละ 2 ไร่ ที่ บ้านโคกไร่ อ.เมือง สงขลา

“แต่หลังจากรับเงินแล้ว หลังจากผมพ้นตำแหน่ง โพงพางที่รับเงินไปแล้วก็กลับมาปักหลักในที่ดิน ส่วนที่ดินทำกิน ทราบว่ามีการขายสิทธิให้คนอื่น และครั้งนี้ก็จะเรียกร้องค่าชดเชยอีก ทั้งที่รับเงินชดเชยไปแล้ว” นายธำรงค์กล่าว

นายธำรงค์ยังกล่าวอีกว่า ในอดีตที่ตนเองไม่ได้ใช้กฎหมายในการดำเนินการกับโพงพางเหล่านี้ เพราะในปี 2559 โพงพางยังไม่ใช่เครื่องมือทำประมงที่ผิดกฎหมาย และเงินที่ใช้ในการชดเชยก็เป็นเงินของเอกชน



“แต่จ่ายเงินแล้ว ปัญหาก็ไม่จบ เป็นการผิดคำพูด ผิดสัญญา ของผู้เป็นเจ้าของโพงพาง ตนเห็นด้วยที่จะใช้กฎหมายในการดำเนินการรื้อถอนในส่วนแรกคือ ในระยะทาง 5 กิโลเมตร ที่ขวางร่องน้ำการเดินเรือ ส่วนที่เหลือ ซึ่งผิดกฎหมาย เช่นกันก็จะต้องดำเนินการต่อไป” นายธำรงค์กล่าว

ด้านนายเดชอิศม์ ขาวทอง หรือ “นายกชาย” สส.สงขลา และเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ตนได้พบและขอโทษชาวประมง ด้วยโพงพาง ซึ่งเป็นเครื่องมือประมงที่ผิดกฎหมาย ที่อยู่ในทะเลสาบสงขลา จำนวน 1,500 กว่าช่อง และมีส่วนหนึ่งที่รุกเข้าไปในร่องน้ำของการเดินเรือจำนวน 158 ช่อง ที่ต้องถูกรื้อถอนโพงพาง และขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแก้ปัญหานี้ต่อไป



นายเดชอิศม์กล่าวว่า แต่เดิมจังหวัดสงขลาเตรียมรื้อถอนในวันที่ 9 กุมภาพันธ์ แต่ตนได้ร้องขอให้จังหวัดชะลอการรื้อถอนไว้ก่อน โดยขอที่จะเป็นผู้เจรจากับชาวประมงเจ้าของโพงพาง เพื่อหาทางออกที่ให้ผู้ทำอาชีพโพงพางเดือดร้อนน้อยที่สุด

ได้มีการประชุมกับเจ้าของโพงพางหลายรอบ โดยเฉพาะที่อยู่ใกล้กับร่องน้ำในการเดินเรือ โดยเจ้าของโพงพางเรียกร้องค่าชดเชยในการรื้อถอนช่อละ 450,000 บาท รวมเป็นเงิน 71 ล้าน บาทเศษ ซึ่งตนเองได้พยายามที่จะหางบประมาณดังกล่าวจากเพื่อนพ้องน้องพี่ เพราะจากการเจรจากับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ พบว่า ทางราชการไม่มีนโยบายในการเยียวยา ดังนั้นด้วยจำนวนเงินที่มากถึง 71 ล้านบาท ตนจึงไม่สามารถที่ช่วยเหลือชาวประมง ที่เป็นเจ้าของโพงพางได้



นายเดชอิศม์ กล่าวว่า การทำอาชีพดักโพงพางในทะเลสาบสงขลา ทำกันมาชั่ว 5-6 อายุคน เป็นเวลา 200-300 ปีมาแล้ว จนกลายเป็นอาชีพของชาวบ้าน และโพงพาง 1 ปากมีรายได้ในการเลี้ยงครอบครัว 3-4 ครอบครัว การรื้อโพงพางในครั้งนี้จะส่งผลกระทบกับคนใน ต.หัวเขา มากกว่า 10,000 คน จากการพูดคุยพวกเขายินดีที่จะเลิกอาชีพการดัดโพงพาง แต่ต้องมีอาชีพอื่นให้เขาทำมาหากิน

ส่วนตัวเห็นด้วยการการรื้อโพงพางในครั้งนี้ เพราะเป็นเครื่องมือที่ถูกประกาศให้เป็นเครื่องมือที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งส่วนหนึ่งที่ถูกรื้อเพราะกีดขวางร่องน้ำ ทำให้มีปัญหากับการเดินเรือ ตลอดเวลา 3 เดือน ที่ได้ขอโอกาสกับ ผวจ.สงขลา ตนได้พยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยเหลือด้วยการเยียวยา แต่ทำไม่สำเร็จ

###


ไม่มีความคิดเห็น:

ชายแดนใต้

[๐ ชายแดนใต้][bleft]

งานวิจัย

[๐ งานวิจัย][twocolumns]

คุณภาพชีวิต

[๐ คุณภาพชีวิต][bsummary]

กระบวนการยุติธรรม

[๐ กระบวนการยุติธรรม][bleft]

บทความ

[๐ บทความ][bsummary]

ศิลปวัฒนธรรม

[๐ ศิลปวัฒนธรรม][twocolumns]