รมว.ยุติธรรมเปิดอาคารบ้านฉันบ้านกึ่งวิถี "มูลนิธิบ้านพระพร" สร้างโอกาสผู้พ้นราชทัณฑ์
๐ กระบวนการยุติธรรม ๐ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดอาคารบ้านฉันบ้านกึ่งวิถี มูลนิธิบ้านพระพร มุ่งปรับพฤตินิสัย สร้างโอกาสผู้พ้นราชทัณฑ์
11 พฤษภาคม 2567 - เวลา 14.30 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานเปิดป้าย “อาคารบ้านฉันบ้านกึ่งวิถี” ของมูลนิธิบ้านพระพร–คริสเตียน เรือนจำพันธกิจ ถนนริมคลอง ซอยสุภาพงษ์ แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ สถานสงเคราะห์เอกชน
มีนายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บริหารจากกรมคุมประพฤติ กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน นายสุนทร สุนทราวงศ์ ที่ปรึกษา - ผู้ก่อตั้งมูลนิธิบ้านพระพรฯ นายวุฒิชัย วงศ์จิโรจน์ ประธานมูลนิธิบ้านพระพรฯ ฝ่ายบริหารจากสำนักงานเขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร และอดีตผู้ต้องราชทัณฑ์ ที่เคยได้รับการดูแลจากมูลนิธิฯ เข้าร่วมให้การต้อนรับ
สำหรับอาคารบ้านฉัน บ้านกึ่งวิถี มูลนิธิบ้านพระพร เป็นอาคารสูง 4 ชั้น แบ่งเป็นห้องทั้งหมดจำนวน 18 ห้อง มีวัตถุประสงค์เป็นอาคารเพื่อใช้ในกิจการของมูลนิธิฯ ในการวางแนวทางการส่งเสริมให้เยาวชน และผู้พ้นโทษให้ได้รับการพัฒนาด้านพฤตินิสัยอย่างมีประสิทธิภาพ และมีบริเวณส่วนของที่พักอาศัย
พ.ต.อ.ทวีได้กล่าวแสดงความยินดี ที่ได้รับเกียรติเป็นประธานเปิดงานในวันนี้ ในการเปิดป้ายอาคารบ้านกึ่งวิถีหลังใหม่ของมูลนิธิฯ "อาคารบ้านฉัน" และเปิดป้ายสถานสงเคราะห์เด็กบ้านพระพร
พ.ต.อ.ทวียังได้กล่าวถึงเรื่องที่ขณะนี้มีผู้ต้องขังที่มีอยู่ในประเทศไทยทั้งสิ้น 271,348 คน แบ่งเป็นคดียาเสพติด 206,210 คน 74% ของผู้ต้องขังในประเทศไทยทั้งหมด ซึ่งกระทรวงยุติธรรมมีนโยบายขจัดการเลือกปฏิบัติต่อผู้ต้องขังที่ถูกด้อยค่า โดยเน้นการบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ ดังนี้
1.การมีอาหารกิน 2.การมีที่พักอาศัย 3.การมีอนามัยที่ดี 4.การมีอาชีพ 5.การมีโอกาสในสังคม เช่น การศึกษาและอาชีพ 6. ความอยุติธรรมหรือความไม่เป็นธรรม ไม่ควรมี นับว่าเป็นเรื่องที่ดี และมีความสอดคล้องกับงานการยกระดับชีวิตผู้พ้นโทษ และเยาวชนจากสถานพินิจ ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
พ.ต.อ.ทวียังได้ชื่นชมการดำเนินงานของมูลนิธิฯ โดยระบุว่า มูลนิธิบ้านพระพรฯ ทำให้พบแสงสว่าง และเป็นเหตุให้ตนต้องตัดสินใจเดินทางมาที่นี่ ทั้งๆ ที่ตนมีกำหนดการต้องเตรียมเดินทางไปร่วมปฏิบัติภารกิจร่วมประชุม ครม.สัญจรกับคณะรัฐมนตรี ที่มีนายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป
“ก็เพราะที่นี่ได้ทำสิ่งท้าทายให้แก่สังคม ในการเปลี่ยนสภาวะของเรือนจำซึ่งเป็นดินแดนต้องคำสาปให้เป็นดินแดนแห่งการสร้างโอกาสให้แก่ทุกคน ที่ต่างออกจากเรือนจำเพื่อมาเป็นคนดี ไม่ต้องการสร้างภาระให้แก่สังคม จึงถือเป็นคนที่มีเกียรติมาก และเมื่อเขาให้เกียรติแก่สังคมไทยที่ต้องการสร้างครอบครัว สร้างเศรษฐกิจและความเจริญให้แก่ประเทศชาติ ผมจึงตัดสินใจมาที่นี่ในวันนี้”
ภายหลังกล่าวเปิดงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นการแสดงขับร้องเพลง “อยู่ที่เรียนรู้” ของผู้ต้องราชทัณฑ์ ที่เข้ารับการฝึกอาชีพกับมูลนิธิฯ มีการเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานเปิดป้าย “สถานสงเคราะห์เด็กบ้านพระพร ภายใต้กรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์”
จากนั้น คณะผู้บริหารของมูลนิธิบ้านพระพรฯ ได้นำรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเดินตรวจเยี่ยมการดำเนินกิจการของมูลนิธิฯ ที่รับผู้ต้องราชทัณฑ์ ผู้พ้นโทษ และเยาวชนของผู้ต้องขังเพื่อรับเข้าสู่กระบวนการปรับพฤตินิสัย พร้อมเข้าเยี่ยมชมการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ทั้งห้องเรียนการสอนคอมพิวเตอร์ การดนตรี การขับร้อง ร้านค้า ทั้งการชงกาแฟ การทำขนมเบเกอรี่ เป็นต้น
###
ไม่มีความคิดเห็น: