รมว.ยุติธรรมแจงสิ่งที่ต้องทำต่อหลังแถลงนโยบายยก “ปัญหายาเสพติด” เป็นวาระของภูมิภาค
การเมือง - 12 กันยายน 2567 - ในการประชุมสภาร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภานั้น
ในเวลา 12.55 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ชี้แจงเป็นคนแรกของสัดส่วนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเรื่องปัญหายาเสพติด โดยได้เขียนไว้ในนโยบายเร่งด่วนว่ารัฐบาลจะแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเด็ดขาดครบวงจรเริ่ม ตั้งแต่ตัดต้นตอการผลิต การจำหน่ายและร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้านสกัด การควบคุมลักลอบนำยาเสพติดเข้ามา และเส้นทางการนำเรียงยาเสพติด การปราบปราม การยึดทรัพย์ผู้ค้าอย่างเด็ดขาด
รวมถึงการค้นหาผู้เสพในชุมชนเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการการรักษา ตั้งแต่การบำบัดรักษา การฟื้นฟูสภาพทางสังคม รวมถึงมีระบบติดตาม ดูแลและช่วยเหลือไม่ให้กลับมากระทำความผิด
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องของยาเสพติดเป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่ควรโทษกัน แต่ต้องแก้ปัญหา และวันนี้เราประกาศได้ว่ายาเสพติดที่อยู่ในประเทศไทยทั้งหมด ไม่มีผลิตในประเทศไทยเลย ไม่ว่าจะเป็นเคมีภัณฑ์ ส่วนผสม หีบห่อ จะเห็นได้ว่ามาตรการในประเทศที่เราจะไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจนั้น เราทำได้เต็มที่ และทุกคนยอมรับกันว่าคนที่ทำลายยาเสพติดในประเทศไทยก็มาจากประเทศอาเซียน
พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องของยาเสพติดเป็นเรื่องสำคัญที่เราไม่ควรโทษกัน แต่ต้องแก้ปัญหา และวันนี้เราประกาศได้ว่ายาเสพติดที่อยู่ในประเทศไทยทั้งหมด ไม่มีผลิตในประเทศไทยเลย ไม่ว่าจะเป็นเคมีภัณฑ์ ส่วนผสม หีบห่อ จะเห็นได้ว่ามาตรการในประเทศที่เราจะไม่ยืมจมูกคนอื่นหายใจนั้น เราทำได้เต็มที่ และทุกคนยอมรับกันว่าคนที่ทำลายยาเสพติดในประเทศไทยก็มาจากประเทศอาเซียน
ต้องยอมรับว่าการแก้ปัญหายาเสพติดใน 1 ปีที่ผ่านมา พวกเราทำงานหนัก เราเปลี่ยนมิติใหม่จากการที่ฝ่ายปกครองคือผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ สาธารณสุข เราก็มาเริ่มต้นฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร สาธารณสุข รวมถึงท้องถิ่น เพื่อให้ทั้ง 4 ส่วนนั้นมาช่วยกันแก้ปัญหา เราต้องการให้อนาคตของชาติเป็นคนที่มีสุขภาพดี เป็นผู้ป่วยชนิดหนึ่งที่สมองติดยา
ฉะนั้น ต้องนำไปสู่การรักษา ซึ่งการแก้ปัญหายาเสพติดต้องแก้ด้วยหลักกฎหมาย หลักวิชาการ หลักอาชญาวิทยา และหลักศีลธรรมต้องตามมาด้วย
“เราไม่พอใจถ้าประชาชนคนไทยยังถูกโจมตีด้วยยาเสพติด สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้ดูหรือพื้นฐานหนึ่งที่เราต้องช่วยกันแก้ อดีตผมคิดว่าเป็นบทเรียน ปัจจุบันและอนาคตคือความรับผิดชอบ คือความรับผิดชอบของรัฐบาลนี้ และยืนยันว่าเราจะเข้มข้นและจัดการนักค้า แต่ใครที่บอกว่าจำนวนเงินมากน้อยนั้น ผมอยากให้ยึดหลักนิติธรรมไม่ใช่จับมาแล้วยึดทรัพย์หมด เรามีกระบวนการศาล มีกระบวนการตามหลักฐาน ไม่ใช่กระบวนการที่ไปบีบบังคับว่าต้องยึดทรัพย์ไว้ก่อน เพราะเป้าหมายของเราคือการยึดทรัพย์ของนักค้ารายสำคัญ
“เราไม่พอใจถ้าประชาชนคนไทยยังถูกโจมตีด้วยยาเสพติด สิ่งหนึ่งที่ผมอยากให้ดูหรือพื้นฐานหนึ่งที่เราต้องช่วยกันแก้ อดีตผมคิดว่าเป็นบทเรียน ปัจจุบันและอนาคตคือความรับผิดชอบ คือความรับผิดชอบของรัฐบาลนี้ และยืนยันว่าเราจะเข้มข้นและจัดการนักค้า แต่ใครที่บอกว่าจำนวนเงินมากน้อยนั้น ผมอยากให้ยึดหลักนิติธรรมไม่ใช่จับมาแล้วยึดทรัพย์หมด เรามีกระบวนการศาล มีกระบวนการตามหลักฐาน ไม่ใช่กระบวนการที่ไปบีบบังคับว่าต้องยึดทรัพย์ไว้ก่อน เพราะเป้าหมายของเราคือการยึดทรัพย์ของนักค้ารายสำคัญ
"ยืนยันอีกครั้งว่าอีก 3 ปีหลังจากแถลงนโยบายแล้ว สิ่งที่จะต้องทำต่อไปคือยาเสพติดเป็นวาระของภูมิภาค ไม่ใช่เป็นวาระแห่งชาติแล้ว เพราะยาเสพติดไม่ใช่ทำลายแค่คนไทย แต่ทำลายคนทั้งโลก ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหายาเสพติดรัฐบาลฝ่ายเดียวคงไม่สามารถทำได้แต่ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกคน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว
////////////////////////////////
ไม่มีความคิดเห็น: